วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทินครั้งที่ 5

บันทึกอนุทิน
วิชา  การจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน  อาจารย์ตฤณ  แจ่มถิน
วัน/เดือน/ปี : 12  เดือน กรกฎาคม พ.ศ.2556
ครั้งที่ 5                       เวลาเรียน: 13.10-16.40 น.
เวลาเข้าสอน : 13.10 น.       เวลาเข้าเรียน : 13.10 น.       เวลาเลิกเรีย: 16.40 น.

"เนื้อหาการเรียนโดยสังเขป"

กลุ่ม 8
จากสัปดาห์ที่แล้วเพื่อนๆยังไม่ได้รายงาน
เพื่อนพูดเกี่ยวกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กปฐมวัย

จากการฟังบรรยายวีดีโอ
     พัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กปฐมวัยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความคิดและความเข้าใจของเด็ก
ลำดับขั้น
1. อายุ0-2 ปี >> ทดลองใช้พฤติกรรม ลองผิดลองถูก
2. อายุ2-4 ปี >> เริ่มใช้ภาษาและเข้าใจความหมายของสัญลักษณ์
3. อายุ5 ปี    >> เริ่มเข้าใจเกี่ยวกับขนาด
พัฒนาการ
    กระบวนการพัฒนาการ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างของร่างกายและแบบแผนของร่างกายทุกส่วน การเปลี่ยนแปลงนี้จะก้าวหน้าไปเรื่อยๆเป็นขั้นอตน จากระยะหนึ่งไปอีกระยะหนึ่ง ทำให้เด็กมีลักษณะและความสามารถใหม่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งมีผลทำให้เจริญก้าวหน้าตามลำดับทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
องค์ประกอบของสติปัญญา    
     1. ความสามารถทางภาษา
     2. ความสามารถทางตัวเลข
     3. ความสามารถทางการใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา
     4. ความสามารถทางการใช้เหตุผลเชิงตรรกะ
     5. ความสามารถทางความจำ
     6. ความสามารถทางเชิงสังเกต
     7. ความสามารถทางมิติสัมพันธ์
โครงสร้างของสติปัญญา (สติปัญญาเน้นสร้างและระดับทางการคิด)
     1. การรับรู้
     2. ความจำ
     3. การเกิดความคิดเห็น
พัฒนาการของเด็กปฐมวัย
     วัยทารกอายุแรกเกิด-2ปี
พัฒนาการเด็กในช่วงนี้เป็นรากฐานสำคัญ มีพัฒนาการทางร่างกายมากกว่าทุกวัย ปกติมากกว่า 2 เท่า และจะลดลงถึง 30% การใช้ปฏิกิริยาสะท้อนกลับมากระทบจะเกิดขึ้นซ้ำอีกเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ เด็กมีทั้งสิ้น 11 อารมณ์



ของที่รักที่สุดในวัยเด็ก

อาจารย์ให้วาดภาพของที่รักที่สุดในวัยเด็ก คือ ตุ๊กตาอุ่นรัก อุ่นไอ
ความรู้สึกที่เลือกของสิ่งนี้เพราะ : เมื่อเวลาจะสุขหรือเศร้าเราสามารถบอกกับตุ๊กตาได้ อบอุ่นเหมือนอยุ่บ้านจะนำติดตัวไปด้วยตลอด เคยนั่งร้องไห้กับตุ๊กตาแล้วหลายรอบ ความรู้สึกเหมือนตุ๊กตาสองตัวนี้ตอบกลับความรู้สึกและคอยปลอบเราอยู่



     การจัดประสบการณ์ให้เด็กง่ายๆ ควรจะให้เด็กบรรยายตามภาพง่ายที่สุด
องค์ประกอบของภาษา
1. Phonology (เสียง)
     - คือระบบเสียงของภาษา
     - เสียงที่มนุษย์เปล่งออกมาเพื่อสื่อความหมาย
     - หน่วยเสียงจะประกอบขึ้นเป็นคำ เป็นภาษา

            รูป จ/า/น
2.Semantic (ความหมาย)
     - คือความหมายของภาษาและคำศัพท์
     - คำศัพท์บางคำสามารถมีได้หลายความหมาย
     - ความหมายเหมือนกันแต่ใช้คำศัพท์ต่างกัน
          
       รูป
3. Syntay (ไวยากรณ์)
    - คือระบบไวยากรณ์
    - การเรียงรูปประโยค
4. Pragmatic (การนำไปใช้)
     - คือระบบการนำไปใช้
     - ใช้ภาษาให้ถูกต้องตามสถานการณ์และกาลเทศะ 

แนวคิดนักการศึกษา
1. แนวคิดของกลุ่มพฤติกรรมนิยม (การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือนิสัยเด็กโดยใช้แรงเสริมไม่ว่าจะเป็นทางบวกหรือทางลบ)
     1. ทฤษฎีการเรียนรู้ของ Skinner
       - สิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางภาษา
       - ให้ความสำคัญกับสิ่งเร้าและการตอบสนอง


Skinner

     2. John B. Watson
       - ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิก
      - การวางเงื่อนไขพฤติกรรมของเด็ก เป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้และผู้ใหญ่ที่จะสามารถวางเงื่อนไขให้เด็กเกิดพฤติกรรมที่พึงประสงค์ได้ทุกพฤติกรรม

John B. Watson

     นักพฤติกรรมนิยมเชื่อว่า
- ภาษาเป็นกระบวนการภายในของมนุษย์
- การเรียนภาษาเป็นผลจากการปรับพฤติกรรมโดยสิ่งแวดล้อม
- เด็กเกิดมาโดยมีศักยภาพในการเรียนรู้ภาษา
- เด็กจะสังเกตและเลียนแบบพฤติกรรมเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบตัว


2. แนวคิดกลุ่มพัฒนาการทางสติปัญญา
     1. Piaget
       - เด็กเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
       - ภาษาเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นระดับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก
Piaget

     2. Vygotsky
       - เด็กเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
       - สังคมบุคคลรอบข้าง มีผลต่อการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
       - เน้นบทบาทของผู้ใหญ่
       - ผู้ใหญ่ควรช่วยชี้แนะและขยายประสบการณ์ด้านภาษาของเด็ก

Vygotsky

3. แนวคิดของกลุ่มที่เชื่อเรื่องความพร้อมทางร่างกาย
     1. Arnold Gesell
        - เน้นความพร้อมทางด้านร่างกายในการใช้ภาษา
        - ความพร้อม วุฒิภาวะของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน
        - เด็กบางคนอาจมีความพร้อมทางร่างกายในการใช้ภาษาได้เร็ว
        - เด็กบางคนอาจมีปัญหาอวัยวะบางส่วนที่ใช้ภาษาในการสื่อสารบกพร่อง
Gesell
4. แนวคิดของกลุ่มที่เชื่อว่าภาษาติดตัวมาตั้งแต่เกิด
    1. Noam Chomsky
      - ภาษาเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในตัวมนุษย์
      - การเรียนรู้ภาษาขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะ
      - มนุษย์ที่เกิดมาโดยมีศักยภาพในการเรียนรู้ภาษามาตั้งแต่เกิดเรียกว่า LAD (Language Acquisition Device)

Noam Chomsky
     2. O. Hobart Mower
       - คิดค้นทฤษฎีความพึงพอใจ
" จะนึกถึงคำพูดคำแรกที่เด็กพูด เกิดจะความสามารถในการฟังเพลง ความเพลิดเพลินจากการได้ยินเสียงผู้อื่นและเสียงตัวเลข เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการทางภาษา"

Hobart Mower

แนวทางในการจัดประสบการณ์ทางภาษา
     - เป็นสิ่งที่สะท้อนปรัชญาและความเชื่อของครูเกี่ยวกับการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
     - นำไปสู่การกำหนดกระบวนการที่ใช้อย่างแตกต่างกัน

Richard and Rodger (1995) ได้แบ่งมุมมองต่อภาษาในการจัดประสบการณ์เป็น 3 กลุ่ม
     1. มุมมองด้านโครงสร้างของภาษา
        - นำองค์ประกอบย่อยของภาษามาใช้ในการสื่อความหมาย
        - เสียง ไวยากรณ์ การประกอบคำ วลี หรือประโยค
     2. มุมมองด้านหน้าที่ของภาษา
       - เชื่อว่าภาษาเป็นเครื่องมือสำหรับสื่อความหมาย
       - การจัดประสบการณ์เน้นการสื่อความหมาย
       - ไม่ได้ละทิ้งแบบแผนหรือไวยากรณ์
     3. มุมมองด้านปฏิสัมพันธ์
       - เชื่อว่าภาษาเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม
       - การแลกเปลี่ยนประสบการณ์
       - เด็กมีปฏิสัมพันธ์ผ่านการใช้ภาษา


สิ่งที่ได้จากการเรียน
   ได้รู้ข้อมูลที่แตกต่างออกไปจากข้อมูลเดิมได้ความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับภาษารู้จักนักทฤษฎีต่างๆมากขึ้น
การนำไปใช้
   เอาข้อมูลที่ถูกต้องจากผู้รู้และข้อมูลต่างๆ ไปประกอบการจัดประสบการณ์ทางภาษาให้กับเด็กในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น